ตามที่ได้ตั้งใจเอาไว้ว่าปีนี้จะอ่านหนังสือ (ตามที่เขียนเอาไว้ในโพสต์นี้นะครับ) แล้วกะเอาคร่าวๆ ว่าน่าจะอ่านได้เฉลี่ยเดือนละเล่ม ๑๒ เดือนก็ ๑๒ เล่ม ก็ทยอยเก็บมาเรื่อยๆ บางช่วงก็เร็ว บางช่วงก็ช้าหน่อย แล้วแต่หน้าที่การงาน (และความขี้เกียจ) เมื่อเล่มที่แล้วผมก็บรรลุจุดหมาย ๑๒ เล่มเป็นที่เรียบร้อย และคราวนี้ถือว่าทำได้เกินเป้า เป็นเล่มที่ ๑๓ ซึ่งก็คือ…
ตามล่านาซี ซึ่งแปลมาจาก The Odessa File ของ Frederick Forsyth นักเขียนชาวอังกฤษผู้ผันตัวมาจากอาชีพนักข่าว
เรื่องราวของเล่มนี้เข้าใจว่าเป็นการเอาเรื่องจริงมาแต่งเติมเพิ่มเนื้อหาและความบันเทิงเข้าไป เพราะตัวละครหลายคนมีอยู่จริง เนื้อเรื่องโดยย่อก็คือ ในวันเดียวกับที่ประธานาธิบดีเคนเนดี้ถูกลอบสังหารจนเสียชีวิต ชายชราเชื้อสายยิวคนหนึ่งที่เมืองฮัมบูร์ก ประเทศเยอรมนี ฆ่าตัวตายและทิ้งสมุดบันทึกเอาไว้ ซึ่งได้ตกมาอยู่ในมือของนักข่าวหนุ่มผู้เป็นตัวเอกในเรื่อง
เนื้อหาในสมุดบันทึกที่นักข่าวหนุ่มได้อ่านทำให้เขาอยู่ไม่สุข เพราะมันบอกเล่าถึงความโหดร้ายและความทุกข์ยากของการใช้ชีวิตอยู่ในค่ายนรกนาซี เป็นเรื่องราวที่ทำใจเชื่อได้ยากว่าเหตุการณ์เหล่านั้นมันเกิดขึ้นจริง ถ้าไม่ได้ฟังจากคนที่ผ่านชีวิตตรงนั้นมาจริงๆ
ในช่วงท้ายของบันทึก ชายชราเล่าว่า นาซีที่เป็นหัวหน้าค่ายนรกแห่งนั้นยังมีชีวิตอยู่แถมยังสุขสบายดี เมื่อพบว่าตนเองไม่สามารถกระชากหน้ากากนาซีและนำตัวมาลงโทษได้ ด้วยความคับแค้นใจจึงตัดสินใจฆ่าตัวตาย
หลังจากได้อ่านสมุดบันทึกแล้ว นักข่าวหนุ่มตัดสินใจที่จะตามล่าหาตัวนาซีอดีตหัวหน้าค่ายนรกผู้นี้เพื่อนำตัวมารับโทษในฐานะอาชญากรสงคราม ซึ่งทำให้เขาต้องทำอะไรหลายอย่างที่เขาไม่เคยทำ แถมยังต้องทำผิดกฎหมายและเสี่ยงต่อการถูกตามฆ่า นอกจากนี้เรื่องราวยังขยายวงออกไปเกินกว่าที่นักข่าวหนุ่มคาดคิดไว้ในตอนแรก เพราะมีมอสสาด ซึ่งเป็นหน่วยสืบราชการลับของอิสราเอล กับโอเดสซา ที่เป็นหน่วยงานของนาซีโดดเข้ามาร่วมด้วย
ผู้ที่เข้ามามีส่วนร่วมในการตามล่าครั้งนี้ล้วนแล้วแต่มีแรงจูงใจของตัวเอง ซึ่งไม่จำเป็นต้องสอดคล้องกับของคนอื่น ไม่เว้นแม้แต่ตัวเอกเองที่เวลาเราอ่านไปก็จะสงสัยตงิดๆ ว่ามันจะทำไปทำไม (วะ?) จนกระทั่งมาเฉลยในตอนท้ายเรื่อง
Forsyth เขียน The Odessa File เป็นเล่มที่สอง (ออกมาในปี ๑๙๗๒ ต่อจากความสำเร็จถล่มทลายของ The Day of the Jackal ผลงานเล่มแรกที่ออกมาในปี ๑๙๗๑) โดยนอกจากจะดำเนินเรื่องตามพลอตที่ตั้งไว้ยังสอดแทรกเรื่องราวของนาซีและหน่วยงาน SS ของนาซีในยุคนั้นเอาไว้ด้วย
สนุก ลุ้นตลอดทั้งเรื่องว่าพระเอกจะตามเจอมั้ยและจะโดนตามเก็บซะก่อนมั้ย แต่ไม่ได้มาแนวแอ๊กชั่นล้างผลาญ บู๊ระห่ำแบบเจสัน บอร์น อะไรแบบนั้นนะครับ
หมายเหตุ : ผมอ่าน ตามล่านาซี ที่เป็นสำนวนแปลของคุณธนิต ธรรมสุคติ ได้ประมาณซัก ๕๐ หน้า ยอมรับว่าไม่ชินกับสำนวนที่คุณธนิตใช้ในเล่มนี้ ก็เลยไปค้นฉบับภาษาอังกฤษที่เคยซื้อเล่มมือสองเอาไว้มาอ่านต่อ อ่านติดตรงไหนค่อยหยิบของคุณธนิตมาดู ที่บอกว่าไม่ชินสำนวนที่คุณธนิตใช้นี่ก็แปลกอยู่ เพราะก่อนหน้านี้เคยอ่าน The Godfather ที่คุณธนิตแปลก็ไม่ได้รู้สึกอะไร ผมเข้าใจว่าน่าจะเป็นเพราะคุณธนิตแปล ตามล่านาซี เป็นเล่มแรก (หรือเล่มแรกๆ) สำนวนที่ใช้อาจจะยังไม่เข้าที่นัก ลองหยิบ The Godfather ที่คุณธนิตแปลมาเปิดดูเห็นว่าพิมพ์ครั้งแรกเมื่อปี ๒๕๒๒ ส่วนตามล่านาซีนี่พิมพ์ครั้งแรกปี ๒๕๑๘ ก็เลยคิดว่าน่าจะใช่
The Odessa File เล่มภาษาอังกฤษที่ซื้อมือสองมา เคยเป็นหนังสือในห้องสมุดมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งมาก่อน
ตามล่านาซี
ผู้เขียน : Frederick Forsyth
ผู้แปล : ธนิต ธรรมสุคติ
สำนักพิมพ์ : มติชน (พิมพ์ครั้งที่ ๔ เมื่อเดือนมกราคม ๒๕๔๐)
ราคา : ๑๘๐ บาท
ก่อนหน้าเล่มนี้อ่านอะไรไป…
หนังสือเล่มแรกของปี ๒๕๕๘ : Gone Girl
หนังสือเล่มที่สองของปี ๒๕๕๘ : ระวังหลัง
หนังสือเล่มที่สามของปี ๒๕๕๘ : Offscreen
หนังสือเล่มที่สี่ของปี ๒๕๕๘ : กับดักฆาตกร
หนังสือเล่มที่ห้าของปี ๒๕๕๘ : แกล้ง
หนังสือเล่มที่หกของปี ๒๕๕๘ : ลวง
หนังสือเล่มที่เจ็ดของปี ๒๕๕๘ : สารวัตรเถื่อน
หนังสือเล่มที่แปด & เก้าของปี ๒๕๕๘ : แม่ลาวเลือด
หนังสือเล่มที่สิบของปี ๒๕๕๘ : สาบสูญ
3 thoughts on “รีวิวหนังสือ : ตามล่านาซี (The Odessa File)”